วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หัวข้อย่อย 09 การไปมาหาสู่ คุยกัน เกี่ยวข้องกัน พูดจาปราศรัย การปฏิสันถารต้อนรับแขก

หัวข้อย่อย 09 การไปมาหาสู่ คุยกัน เกี่ยวข้องกัน พูดจาปราศรัย การปฏิสันถารต้อนรับแขก

ลำดับที่ 001 เลขที่เทป 080/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290627 วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2529
พูดจาปราศรัยกัน ยังใช้คำพูดยังไม่ถูกตามหลักธรรมหลักวินัย เนื่องจากว่ายังมีความแข็งกระด้างกันมาก ถ้าหากว่าถามไม่เป็นพูดไม่เป็น อย่าไปพูดอย่าไปถาม ถ้าหากว่าจะถามเป็นพูดเป็น ต้องถามให้มันมีมรรยาท อย่าถามในลักษณะที่ว่าเดินผ่านพูดกัน การพูดต้องมีกิจลักษณะ เพิ่นเดินอยู่เราไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องไปพูดก็ไม่ ควรจะใช้เวลาเดินสวนกันพูด หรือว่าเดินตามกันพูด เวลาที่จะพูด เวลาที่จะถามมันมีเยอะแยะไม่อดไม่อยาก อันนี้ไม่ใช่เป็นการถือหากัน แต่สิ่งที่ควรถือธรรมะวินัย ไม่ใช่จะถือตัว การถือตัวถือตนเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่การถือธรรมถือวินัย เป็นสิ่งที่ควรถือเป็นอย่างยิ่ง จะพูดจาปราศรัยกับผู้หลักผู้ใหญ่ ควรที่จะยกมือขึ้นขอโอกาสเสียก่อน ท่านยืนอยู่ก็นั่งลงก็ได้ ถ้าหากว่ามีความจำเป็น ควรที่จะทักทายปราศรัย ควรที่จะพูดยกมือขึ้นประนมมือขอโอกาสดี

ลำดับที่ 002 เลขที่เทป 080/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290627 วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2529
ผู้ใหญ่ต้องรู้จักเจ้าของ เป็นผู้ใหญ่ให้ระวังกิริยามารยาทของความเป็นผู้ใหญ่ ผู้น้อยก็ให้รู้จักเจ้าของ เป็นผู้น้อยแสดงความเป็นผู้น้อยให้มีความเหมาะสม เรื่องการถือรองเท้าใส่รองเท้าก็เหมือนกัน ถ้าหากว่ามันไม่จำเป็น พระพุทธเจ้าจะวางเป็นหลักธรรมหลักวินัยไว้ทำไม ผู้มีพรรษาน้อยไม่ถือรองเท้าไม่ใส่รองเท้า ผู้มีพรรษาน้อยใส่รองเท้า เณร บางทีครูบาไม่ได้ใส่นี้ อันนี้มันศาสนาของคนมีกิเลสหนา

ลำดับที่ 003 เลขที่เทป 091/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290714 วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
จึงว่าให้พากันระมัดระวังเรื่องการพูดจาปราศรัยซึ่งกันและกัน พยายามพูดกันให้น้อย และพยายามพูดกันให้เป็นสุภาษิต และเป็นอรรถเป็นธรรม สิ่งที่ไม่เป็นสุภาษิต สิ่งที่ไม่เป็นอรรถเป็นธรรม ไม่ใช่หน้าที่ของเราสมณะ หน้าที่ของเราบรรพชิตจะพูดกัน ถึงจะมีการบอกกล่าวตักเตือนกันบ้าง ก็ให้ตั้งความหวังดี ตั้งเมตตาเอาไว้ในจิตในใจเสียก่อน ถ้าหากว่ายังไม่มีการทำจิตทำใจ อย่าไปพูดอย่าไปตักเตือนซึ่งกันและกัน แล้วผลสะท้อนมันจะออกมาในลักษณะที่เรียกว่าไปทางลบ อันนี้มันอดที่จะเกิดมีขึ้นไม่ได้ เพราะต่างคนมันก็มีข้าศึก อยู่ในจิตใจของทุกคนอยู่แล้ว

ลำดับที่ 004 เลขที่เทป 028/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290312 วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2529
พระเล็กพระน้อย ก็ให้มีความเคารพซึ่งกันและกันตามระดับพรรษา เณรก็ให้มีความเคารพพระแม้แต่พระเล็กพระน้อยพึ่งบวชใหม่ ก็ให้มีความเคารพอย่าข้ามกลาย ทำความนอบน้อมในตัวของเราอยู่ตลอดเวลา ในลักษณะนี้เป็นผู้ที่สำรวมกายของเจ้าดีแล้ว ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันนี่ ก็ไปมาหาสู่ที่เป็นธรรมเป็นวินัย ถ้าหากว่าผู้ที่ไปหามีอายุพรรษามากกว่า ก็ให้รู้จักว่าเราผู้ที่นั้นเป็นผู้ที่เจ้าของกุฏิ ก็ให้รู้ก็มีการปูเสื่อปูสาดอาสนะนี่ ขนาดไหนเพียงไรให้รู้จัก หรือไม่มีก็คล้าย ๆ กะมีการจัดการลุกขึ้นมีการปฏิสันถารมีความนอบน้อม ผู้ที่มีพรรษาน้อยกว่าไปหาผู้ที่มีพรรษามากกว่า แม้แต่ผิดกันเพียงหนึ่งพรรษาหรือสองพรรษา ก็ให้มีมีความเคารพไปก็ให้มีการกราบการไหว้ซึ่งกันและกัน การกราบการไหว้ซึ่งกันและกันนั้น เป็นการทำลายทิฐิของเราโดยตรง ทำลายทิฐิทำลายมานะทำลายทิฐิทำลายตัวมานะ ก็คือตัวกิเลสทำลายมันลงไป ทำความนอบน้อมเท่าไร เป็นการทำลายตัวทิฐิตัวมานะมากเท่านั้น แข็งกระด้างเท่าไร เป็นการเสริมสร้างตัวกิเลสมากเท่านั้น ให้มีความเคารพซึ่งกันและกัน การพูดจาปราศรัยอย่าคุยกันในลักษณะสนุกสนาน อย่าคุยกันในลักษณะที่เป็นเพื่อน บางทีก็มีแต่พวกเรา ๆ นี่ บางทีหละจะเป็นลักษณะคุยหยอกกันก็มี ไอ้เรื่องหยอกกันหนะมันศีลเศร้าหมองเข้าใจมั้ย มันใช้ไม่ได้ อย่าให้มันมีคำหยอกคำว่าเล่น ไม่ใช่เรื่องของพระ แม้แต่ชาวบ้านหยอกเล่นมันก็ยังไม่ดี อย่าให้มันมี

ลำดับที่ 005 เลขที่เทป 999/25 ชื่อแฟ้มข้อมูล 250709 วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2525
การไปมาหาสู่กันที่ไม่จำเป็นก็ให้หลีก เพราะเราก็เรียกว่าไม่ได้มุ่งเพื่อไปมาหาสู่คุย สนทนาอะไรกัน ความมุ่งความประสงค์ของเรา เรียกว่าต่างคนต่างมุ่งมาเพื่อแสวงหาข้อปฏิบัติ แสวงหาความสงบ หลีกเร้นในการที่จะทำจิตทำใจ ในเมื่อมีเหตุมีความจำเป็น จึงไปมาหาสู่กันได้ ในเมื่อหมดเรื่องหมดราวที่จะพูดจาปราศรัยแล้วก็ ต่างคนต่างไปที่พัก ใจของเราบางทีบางขณะเขาไม่ชอบอยู่คนเดียว ที่เขาไม่ชอบอยู่คนเดียวนั่นหนะ เรียกว่าใจของเราถูกอกุศลครอบงำ มีความกระหายมีความร้อนรน เราให้รู้จัก ใจมีความกระหาย ใจมีความกระหายอันนี้ เขาก็เป็นของที่ดับเป็น เราให้ต่อสู้ด้วยการเดินจงกรม ต่อสู้ด้วยการนั่งสมาธิ เอาสมาธิเอาภาวนานี่ข่มเข้า เอาสมาธิเอาภาวนานี่ชนะเขา

ลำดับที่ 006 เลขที่เทป 118/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290823 วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2529
การเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน เกี่ยวข้องอย่างเป็นพระเกี่ยวข้องกัน การไปมาหาสู่ดูเสียก่อนมีความจำเป็นมั้ย ถ้าหากว่าไม่มีความจำเป็นอย่าไปมาหาสู่กัน ต่างคนต่างอยู่ตามลำพัง เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนให้อยู่อย่างหลีกเร้นนี่ อยู่อย่างหลีกเร้น อยู่ตามลำพังทำความสงบ ปรารถนาความสงบภายในจิตในใจให้มีความวิเวกทางกาย ให้มีความวิเวกภายในจิตในใจ อันนี้พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนี้ ครูบาอาจารย์ก็สอนอย่างนี้ เราให้มุ่งในหน้าที่ของเรา ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกท่านสอนเอาไว้ ให้จริงจัง จึงว่าให้ตรวจตราดูการไปมาหาสู่ การเกี่ยวข้องมีความจำเป็นหรือไม่ และเป็นประโยชน์หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่มีความจำเป้นในการที่จะเกี่ยวข้องกัน ไม่เป็นประโยชน์ในการที่จะเกี่ยวข้องกัน เราต่างองค์ต่างอยู่ ต่างองค์มีหน้าที่ปฏิบัติจิตใจของกันและกันแล้ว ก็ปฏิบัติจิตใจของเราตามลำพัง ในสถานที่พัก ในสถานที่วิเวก อันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง การเกี่ยวข้องอย่างพระเกี่ยวข้องกัน เกี่ยวข้องกันในลักษณะนี้ การพูดจาปราศรัยกันซึ่งกันและกันก็เหมือนกัน ให้พูดจาปราศรัยอย่างพระคุยกัน พระพูดกันคือ พูดกันอย่างไง อย่าลืมว่าเราเป็นพระ ให้มีความอ่อนน้อม ให้มีความอ่อนนุ่ม ในการพูดจาปราศรัยซึ่งกันและกัน อย่าพูดอย่างชาวบ้านคุยกัน อย่าพูดอย่างไม่มีสติ ถ้าหากว่าไม่มีสติลืมตัว มันก็เหมือนชาวบ้านดี ๆ นั้นเอง

ลำดับที่ 007 เลขที่เทป 140/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290923 วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2529
พูดกันอย่าง อย่างพระพูด ระมัดระวังคำพูดให้พอดีพองาม อย่าให้แรงเกินไป อย่าให้ค่อยเกินไป แรงเกินไปขนาดพูดอยู่ข้างบน ข้างล่างได้ยินแรงมากไป เพราะเราพูดให้คนข้างบนฟัง อย่าให้ค่อยจนกระทั่งเราต้องการพูดให้เขาฟัง พูดให้เขา พูดให้รู้เรื่อง อย่าพูดค่อยจนกระทั่งเขาไม่รู้เรื่อง หรือเขาไม่ได้ยินหละ ระหว่างที่พูดกัน ผู้ที่ฟังให้มีความอ่อนน้อมกันให้มาก ผู้ใหญ่ต้องเป็นผู้ใหญ่ ผู้น้อยต้องเป็นผู้น้อย ผู้ใหญ่ก็ไม่รู้จักเจ้าของเป็นผู้ใหญ่ มันเป็นการฝึกผู้น้อยให้ไม่รู้จักว่าเจ้าของเป็นผู้น้อย แต่ผู้ใหญ่ไม่ใช่ถือตัวในลักษณะ (เป็นการถือตัวทำเพื่อเป็นข้อปฏิบัติ) ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นการถือตัว ทำเพื่อเป็นข้อปฏิบัติ อย่าคุยกันลักษณะเพื่อนคุยกัน ครูบาอาจารย์ที่เป็นครูบาอาจารย์นั้น แม้แต่พรรษาเดียวกัน อ่อนหลังท่านก็ยังทรงอ่อนน้อมต่อกันมาก เพราะท่านเคารพธรรม เราไม่เอาอย่างครู ไม่เอาอย่างอาจารย์แล้วเราจะเอาอย่างใครกัน เอาอย่างความเคยชินมันก็ตามกิเลสของเจ้าของนั้น ท่านเคารพกัน ท่านอ่อนน้อมซึ่งกันและกัน ข้อปฏิบัติท่านที่มีการคล่องตัว พูดกันถึงว่าการพับผ้าสังฆาฏินี่ พูดกันถึงว่าการล้างเท้า เช็ดเท้า ท่านไม่ได้ถือว่าท่านมีลูกศิษย์ลูกหา แล้วท่านไม่ถือว่าเขานับถือเป็นครูเป็นอาจารย์ ว่าทำอย่างนั้นมันไปทำไม่ได้เป็นอย่างงั้น

ลำดับที่ 008 เลขที่เทป 007/26 ชื่อแฟ้มข้อมูล 260205 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526
การเกี่ยวข้องกับบุคคลทั่ว ๆ ไป ในเมื่อเกี่ยวข้องแล้วเป็นประโยชน์ ก็เกี่ยวข้องกันไป ในเมื่อเกี่ยวข้องแล้วไม่เป็นประโยชน์ มันก็ไม่ต้องสนใจที่จะเกี่ยวข้องนั้น มันก็ไม่มีคำว่าเกี่ยวข้อง แล้วประโยชน์ก็คือว่า สิ่งไหนที่จะเป็นไปเพื่อความรู้เพื่อความเข้าใจ เป็นไปที่จะปลูกศรัทธาความเลื่อมใสให้เกิดให้มีขึ้นในข้อปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา ก็บอกก็อบรมกันไป หรือสนทนาปราศรัยกันไปชักจูงกันไป ในเมื่อพอที่จะเป็นไปได้ ในเมื่อเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ อันนั้นมันก็เรื่องของเขา การเกี่ยวข้อง ในเมื่อมันเป็นประโยชน์ก็เกี่ยวข้องกันไป ในเมื่อการเกี่ยวข้องไม่เป็นประโยชน์ ถ้าหากไปเกี่ยวข้องแล้วมันไม่ได้ประโยชน์ เราไปเกี่ยวข้อง อันนั้นมันไม่ถูก เกี่ยวข้องแล้วมันไม่ได้ประโยชน์ จะไปเกี่ยวข้องกันทำไม คำว่าประโยชน์นี้ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว เป็นประโยชน์ส่วนรวม เป็นประโยชน์ทั้งเราและเขา ถ้าหากเกี่ยวข้องกันเราก็ไม่ได้ประโยชน์ เขาก็ไม่ได้ประโยชน์ มันไม่ใช่เพียงเท่านั้น มันเสียประโยชน์เสียอีก จึงว่าเลิกการเกี่ยวข้องกันเสียดีกว่า

ลำดับที่ 009 เลขที่เทป 999/24 ชื่อแฟ้มข้อมูล 240419 วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2524
มีใครไปใครมา มาถึงกลางวันเดินทางมา น้ำมีความจำเป็น จะต้องจัดต้องหา เพราะเราอยู่กับวัด อยู่กับที่เป็นเจ้าบ้าน แขกที่มาใหม่ไม่รู้ว่าน้ำอยู่ที่ไหน ตลอดถึงอะไรก็ช่าง สิ่งอื่นเราก็ต้องหา จัดหาต้องดูแลเรื่องปฏิสันถาร พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าต้องให้มีความเอาใจใส่ ถ้าขาดการเอาใจใส่ในเรื่องการปฏิสันถาร ใช้ไม่ได้ การปฏิสันถารก็คือ การต้อนรับการรับรอง อำนวยความสะดวกให้เป็นที่สบายใจแก่แขกที่มาเยี่ยมเยียน

ไม่มีความคิดเห็น: