วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552

ข้อปฏิบัติ 4 ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเพ่งโทษผู้อื่น ทิฐิมานะ

ข้อปฏิบัติ 4 ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเพ่งโทษผู้อื่น ทิฐิมานะ
หัวข้อหลัก 02 ข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น
หัวข้อย่อย 04 ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเพ่งโทษผู้อื่น ทิฐิมานะ

ลำดับที่ 001 เลขที่เทป 027/41 ชื่อแฟ้มข้อมูล 410510 วันที่เทศน์ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2541
คำว่าละบาป ๆ ๆ ๆ ละอกุศล ก็คือละตัวที่มองคนอื่นไม่ดี ๆ ๆ นั่นหละ เค้าไม่ดียังไงมันก็เป็นธรรมชาติของเขา เขาไม่ดียังไงมันก็เป็นเรื่องของเขา ไอ้เราที่ไปมองเขาอย่างนั้นต้องระวัง มอง ๆ ไปอย่างนั้น มองอย่างนั้นแล้วอกุศลมันเกิด ความไม่ชอบใจเรียกว่าบาปมันเกิดขึ้น ในเมื่อบาปมันเกิดขึ้นอย่าไปมอง มองกันในแง่ดีเสีย ถ้าหากว่ามองในแง่ดีมันมองไม่ได้เราอย่าไปสน นี่มองเราเสมอดีที่สุด เป็นข้อปฏิบัติ มองเราเสมอนั่นหละเรามีการปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ขณะที่เรามองเรานี่ ศีลก็รวมอยู่ที่ใจ ถ้าหากว่าเรามองเราให้มาก สมาธิก็รวมอยู่ในเรา ปัญญาก็เกิดในการที่เรามองเรา มองเราเราก็รู้ มองเราเราก็อ่านออก ศีลคือการสำรวมก็คือการสำรวมอยู่ในเรา เรามองอยู่ ๆ ใจของเราก็ไม่ออกไปเกี่ยวข้องข้างนอกนี่ ท่านจึงว่าศีลสมบูรณ์ ศีลสมบูรณ์มองเราอยู่เสมอ ๆ สมาธิมันก็สมบูรณ์ขึ้นมา คือไม่ออกไปเกี่ยวข้องข้างนอก ในเมื่อไม่ออกไปเกี่ยวข้องข้างนอกนี่ มันก็เข้าใจแจ่มแจ้ง ในสิ่งที่เรามองเราอยู่เสมอนั้น

ลำดับที่ 002 เลขที่เทป 005/289 ชื่อแฟ้มข้อมูล 280601 วันที่เทศน์ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2528
ความสามัคคีหากเกิดขึ้นหากมีขึ้น เพราะต่างก็มุ่งในการที่จะแก้ปัญหาของเจ้าของ ต่างก็มุ่งในการที่จะแก้ปัญหาเจ้าของ ไม่มุ่งที่จะแก้ คนนั้นเป็นอย่างนั้น ๆ ผู้นั้นเป็นยังงั้น มีแต่ติฉันติท่านติข่อยอยู่ มันก็มีแต่แตกแยกเป็นพรรคเป็นพวกเป็นหมู่เป็นคณะ ถึงจะอยู่ร่วมกัน มันก็ไม่เป็นหมู่เป็นคณะเดียวกัน เพราะความแตกแยกภายในจิตในใจ จะกินด้วยกันนอนด้วยกันยังไงก็ช่าง ถ้าหากว่ามีข้อปฏิบัติไม่สม่ำเสมอกันแล้วนั้นหละ หมายความว่าความแตกแยกมีขึ้นเกิดขึ้น ณ สถานที่นั้นแล้วกลุ่มนั้นแล้ว จึงว่าพากันเจข้าใจในเรื่องเหล่านี้จึงจะเป็นไปเพื่อความเจริญของการปฏิบัติธรรมของเราเอง ถ้าว่าไม่เข้าใจในเรื่องนี้แล้ว จะมุ่งเพื่อความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมซักเท่าไรก็ช่าง ยังมองไม่เห็นทางที่จะก้าวหน้าไปได้ เพราะสิ่งที่จะกีดขวางความก้าวหน้านี่มันมากเหลือเกิน มุ่งในการแก้เจ้าของอยู่ตลอดเวลา อะไรเกิดขึ้น แก้ แก้ แม้แต่ทิฐิความเห็นว่า บุคคลนั้นเป็นอย่างนั้น ๆ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรแก้ สิ่งใดเกิดขึ้น เราต้องรู้ว่าอันนั้นเป็นของเกิดขึ้น

ลำดับที่ 003 เลขที่เทป 005/28 ชื่อแฟ้มข้อมูล 280601 วันที่เทศน์ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2528
จึงว่าคำว่ากิเลสอย่าว่าเขาโง่ เขาแสนที่จะฉลาดแหลมคม เล่ห์เหลี่ยมอุบายของเขาแต่ละอย่าง ๆ นี่ ยากที่เราจะรู้จักรู้ทันเขา อะไรเล่าที่เรียกว่าเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่เรารู้ไม่ทันก็คือทิฐิ ก็คือความคิดความเห็นที่เกิดขึ้นภายในจิตในใจของเรานี้ บางทีทันเห็นว่าถูกต้องจริง ๆ เหมาะสมจริง ๆ จะต้องเป็นอย่างนี้จริง ๆ คนที่ไม่เป็นอย่างนี้คือคนใช้ไม่ได้ ตัวนี้เป็นทิฐิตัวร้าย ถ้าเกิดขึ้นในจิตใจของบุคคลใด รีบแก้ไข ถ้าหากว่าไม่รีบแก้ไข บุคคลนั้นผู้ปฏิบัติธรรมนั้นจะเอาตัวไม่รอด ต้องแก้ให้ได้ ถ้าหากว่าแก้จิตแก้ใจของเจ้าของได้แล้ว แก้ทิฐิมานะของเจ้าของได้แล้ว โลกทั้งหลายดีหมด ไม่มีการติไม่มีการชม ไม่มีการยกโทษยกโพยซึ่งกันและกัน ถึงจะมีการติชมก็เพื่อความหวังดีต่อกัน มีการติการชมก็เพื่อการหวังดี ติชมก็ด้วยเมตตาธรรมไม่ได้ติชมเพื่อมุ่งความเสียหาย ถ้าหากว่าจิตใจของบุคคลนั้นแก้ทิฐิแก้มานะ แก้สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยได้แล้ว ถ้าหากว่าแก้ไม่ได้นี่ไปติก็ผิดไปชมก็ผิด เพราะไอ้ตัวนั้นมันเป็นตัวผิดอยู่แล้ว มุ่งพากันแก้ตัวนี้ ต่างองค์ต่างรูปต่างนาม พากันแก้ทิฐิมานะของเจ้าของ คำว่าความแข็งกระด้างจะไม่ปรากฏ

ลำดับที่ 004 เลขที่เทป 072/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290720 วันที่เทศน์ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
ไม่ต้องคิดจะไปสอนคนอื่น เพราะเรายังมีเรื่องที่จะต้องสอนอีกมาก ให้มุ่งที่จะสอนเจ้าของอย่างเดียวก็พอแล้ว ในเมื่อต่างมุ่งที่จะสอนเจ้าของ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็จะเกิดขึ้นมีขึ้น เพราะต่างมุ่งที่จะสอนเจ้าของด้วยกัน ทางไหนเป็นทางที่ถูกที่ควร สอนเจ้าของให้พูดอย่างนั้น สอนเจ้าของให้ทำอย่างนั้น สอนเจ้าของให้กราบอย่างนั้น สอนเจ้าของให้ปฏิบัติอย่างนั้น อย่างนั้น สอนไปหมด เพราะเรา ๆ นี้ต้องสอนกัน ต่างคนต่างก็ต้องสอน มีความจำเป็นที่จะต้องสอนเจ้าของด้วยกันทั้งนั้น และต่างคนต่างหนักอยู่ หนักเต็มบ่า ในการสอนเจ้าของอยู่แล้ว จึงว่าอย่าให้คนอื่นที่เขาหนักบ่า มาเพิ่มความหนักที่จะมาสอนเรา จึงเพิ่มความหนักให้แก่ท่านผู้อื่นอีก เรียกว่า เป็นการแบ่งภาระ แบ่งเบาความหนักให้แก่กัน

ลำดับที่ 005 เลขที่เทป 175/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 291223 วันที่เทศน์ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2529
เรา ๆ ก็เหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความถูกต้อง ความผิดพลาดไม่มีนะ มีไหมหละบางที่มันก็มากอยู่ แต่ทีนี้เรามันผิดพลาด บางทีมันก็ยอมไม่ได้ หากโอกาสที่จะแก้ตัว แก้ตัวว่าผิดพลาดแล้วไม่ยอมผิดพลาดอันนี้
หนะ เป็นการไม่ถูกต้องเลย แก้ตัวด้วยการไม่แก้ตัว ด้วยการที่เรียกว่าไม่ให้ผิดพลาดอีก อันนี้ถูกต้อง คนที่มีความผิดแล้วยอมสารภาพผิด คนนั้นเป็นคนถูกขึ้นมาทันที เคยมี ท่านผู้หนึ่งทำอะไรผิดพลาดมากทีเดียว แล้วในที่สุดเขามาขอขมา ขอขมาเรา “เอาท่านไม่ต้องมาขอโทษหรอก ไม่มี่โทษให้ท่านหรอก สิ่งที่เป็นโทษก็ดี ไม่มีใครให้กันได้ สิ่งที่เป็นคุณก็ดี ไม่มีใครให้กันได้ ถึงจะมาขอสิ่งที่เป็นคุณก็ไม่มีคุณให้ได้นะ สิ่งที่เป็นคุณและสิ่งที่เป็นโทษนั้น มีแต่เจ้าของทำขึ้นเอง ไม่ใช่ไปขอกันได้” ขอขมาหลายสิ่งหลายอย่างเราก็มาได้ความคิด โอ.....คนที่มีความผิดนี่ ถ้าหากมีการยอมรับผิดแล้วคนนั้นเป็นคนถูกขึ้นมาเลย เรา ๆ ก็เหมือนกัน ในเมื่อมีการผิดพลาดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือด้วยความเผลออะไรก็ช่าง ยอมรับผิดอย่างกล้าหาญ จะทำยังไงทำ ลงโทษยังไงก็ยอม จะเฆี่ยนจะตีก็ยอม หรือว่าจะอะไรก็ยอมหมดทุกอย่าง ยอมด้วยความสัตย์ซื่อ ยอมด้วยความบริสุทธิ์ใจ กลายเป็นบุคคลถูกขึ้นมา กลายเป็นบุคคลน่าสงสารขึ้นมาทันที นี่ก็เหมือนกันนั้นหละ ใครถ้าหากมีความบกพร่อง มีความผิดพลาดบ้าง ก็ยอมรับผิดเสีย แล้วกลายเป็นถูกขึ้นมาเลย ถ้าหากว่าผิดแล้วยิ่งเถียงให้เจ้าของถูก อันนี้ ๆพูดถึงแล้วก็แย่มากทีเดียว

ลำดับที่ 006 เลขที่เทป 002/28 ชื่อแฟ้มข้อมูล 280721 วันที่เทศน์ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2528
ถ้าหากว่าเราคอยยึดอันนั้นคอยเก็บอันนี้ คอยหาโอกาสที่จะไปหยิบไปยกแต่โทษคนนั้นคนนี้ เราก็จะได้แต่โทษ เราคอยหยิบคอยยกแต่โทษของคนอื่น แม้แต่โทษของคนอื่นก็ช่าง เราไปหยิบไปยกไปยึดเข้า โทษอันนั้นก็เป็นของเรา ที่ว่าเป็นของเราคือมันมาอยู่ในใจของเรานี้ ทำให้ใจของเราขุ่นข้อง ทำให้ใจของเราเศร้าหมอง ทำให้ใจของเราไม่สบาย ทั้ง ๆ ที่เราไม่ต้องการความเศร้าหมอง ความขุ่นมัวหรือความไม่สบายใจ เพราะมันเป็นเรื่องของอกุศล
ลำดับที่ 007 เลขที่เทป 007/27 ชื่อแฟ้มข้อมูล 270316 วันที่เทศน์ 16 มีนาคม พ.ศ. 2527
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้มีความนอบน้อม เราก็ทำความนอบน้อมเสมอ อย่าแข็งกระด้าง นี่ คำว่าแข็งกระด้างมันเป็นเรื่องของกิเลส ความแข็งกระด้างเป็นเรื่องของทิฐิมานะ ธรรมะไม่มีความแข็งกระด้างเลย ธรรมะไม่สร้างความแข็งกระด้างให้แก่บุคคลใด มีแต่สร้างความนอบน้อม สร้างความอ่อนน้อม สร้างความงดงามให้แก่บุคคลผู้ที่มีธรรมะเท่านั้น นี่มีแต่กิเลสเท่านั้นที่จะสร้างบุคคลให้มีแต่ความแข็งกระด้าง นั่งก็นั่งแข็งกระด้าง เดินก็เดินแข็งกระด้าง การกราบพระกราบเจ้าก็มีแต่แข็งกระด้าง การจะพูดจาปราศรัยก็มีแต่ความแข็งกระด้าง ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ทำอย่างไรเราจึงจะละกิเลสทำตัวแข็งกระด้างได้ เราก็ตั้งใจ เราทุกสิ่งทุกอย่าง มีสติในทุกอิริยาบถ ในการเดิน ในการยืน ในการนั่ง ในการนอนแล้วนี่ กิริยามารยาทการเคลื่อนไหวของเรา ที่ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์อยู่นั้น จะเป็นกิริยามารยาทที่มีความอ่อนน้อม สร้างเราให้มีความเรียบร้อยงดงาม เดินก็เดินงาม นั่งก็นั่งงาม นอนก็นอนงาม พูดจาปราศรัยมีแต่ความงามในตาในหู ไม่ขัดนัยน์ตา เดินไปทางไหนจะนั่งตรงไหน กิริยามารยาทไม่ขัดนัยน์ตา ฟังพูดจาปราศรัยก็ไม่ขัดในหู เพราะธรรมไม่ทำให้ขัดหู ไม่ทำให้ขัดนัยน์ตา มีแต่กิเลสเท่านั้นทำให้ขัดหูขัดตา

ลำดับที่ 008 เลขที่เทป 003/28 ชื่อแฟ้มข้อมูล 280726 วันที่เทศน์ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2528
คำว่าทิฐิมานะตัวนี้เราให้มีการระมัดระวัง ถึงว่ากิเลสมันจะพยายามแสดงออกมาเราก็ข่มมันไว้ เราต้องทำจิตทำใจของเราให้อ่อนน้อม ความอ่อนน้อมนั้นหมายถึง ความเป็นธรรมในจิตในใจ ใจจึงอ่อนน้อมได้ ถ้าหากว่าใจของเราแข็งกระด้าง แข็งกระด้างก็ด้วยอำนาจของกิเลส กิเลสมันเจ้ามาในจิตในใจแล้ว มันทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้าง เราก็ทำให้ใจของเราอ่อนน้อมเสีย ในเมื่อทำให้ใจของเราอ่อนน้อมเมื่อไรได้แล้วนี่ ไอ้ตัวกิเลสความแข็งกระด้างก็หมดไปจากจิตจากใจของเรา ใจของเราก็เป็นใจที่อ่อนน้อมขึ้นมาได้ หัดทำจิตทำใจของเราให้อ่อนน้อมให้มาก
ลำดับที่ 009 เลขที่เทป 021/41 ชื่อแฟ้มข้อมูล 410329 วันที่เทศน์ 29 มีนาคม พ.ศ. 2541
ความชนะทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการชนะตนเองเป็นการชนะเลิศ ส่วนมากคนทั่ว ๆ ไปพอใจในการชนะคนอื่น ไม่เคยคิด ไม่สนใจในการที่จะเอาชนะตนเอง การคิดที่จะเอาชนะคนอื่นนั้นเป็นการแพ้ตนเองแล้ว คิดที่จะชนะคนอื่นนั้นก็ทำให้เป็นทุกข์ ทุกข์เพราะการแพ้ตนเอง คำว่าตน ๆ ในที่นี้หมายถึง ใจของเรา ให้ใจอยู่ในโอวาทของเรา เราอบรมสั่งสอนจิตใจของเราได้เรียกว่า เราชนะเรา ในเมื่อเราชนะเราได้แล้ว เป็นการชนะคนอื่นโดยไม่มีความต้องการ โดยไม่มีความปรารถนาที่จะไปชนะใคร การชนะตนเอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เป็นการชนะเลิศ เรา ๆ เองมีอะไรที่เราจะต้องต่อสู้ มีอะไร ๆ ที่เราจะต้องเอาชนะเรา และชอบมีอยู่เสมอ ๆ ความพยายามที่จะเอาชนะเราจึงต้องมีความพยายามอยู่เสมอ ในเมื่อเราชนะเราได้แล้ว เพราะความพยายามของเรามีพอ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติปัญญา เราก็เป็นผู้ที่ชนะเราเองได้ ชนะเราเองได้อยู่เป็นสุข

ลำดับที่ 010 เลขที่เทป 140/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290923 วันที่เทศน์ 23 กันยายน พ.ศ. 2529
จึงว่าให้ฝึกเจ้าของ ให้ทำความอ่อนน้อมซึ่งกันและกัน ถึงว่าจะเป็นผู้ใกล้กัน อาวุโสกันเอาให้เจ้าอ่อนน้อมไว้ พูดจาปราศรัยพนมมือ พอพนมมือขอไหว้ก็พอ ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ควรกราบก็กราบ ควรไหว้ก็ไหว้ ควรนั่งลงพูดจาปราศรัย มันไม่เป็นบาปตรงไหนดอก

ลำดับที่ 011 เลขที่เทป 040/41 ชื่อแฟ้มข้อมูล 410613 วันที่เทศน์ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2541
กิริยาความนอบน้อมมีขึ้นขณะใดขณะนั้น จิตใจเป็นบุญเป็นกุศล การทำความนอบนอ้มในจิตในใจขณะใด การทำการนอบน้อมนั้นหละเป็นมโนกรรมที่เป็นบุญเป็นกุศล เราต้องฝึกในการนอบน้อม และต้องฝึกการกราบการไหว้มาก ๆ เราไม่ได้กราบไม่ได้ไหว้เพื่อเอาอะไร เรากราบเราไหว้เพื่อให้ใจของเรามีความอ่อนน้อม ความอ่อนน้อมกับความแข็งกระด้างอันไหนดีกว่ากัน ความแข็งกระด้างหาความดีไม่ได้ มีแต่ความอ่อนน้อมเท่านั้นหละ อ่อนน้อมเท่าไรยิ่งมีความดีมากเท่านั้น คิดถึงพระมหากษัตริย์กับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ การเยี่ยมตาสีตาสาบ้านนอกบ้านนา คุกเข่าลงกับแผ่นดิน คุกเข่านั่งกับแผ่นดินจะว่าขี้ฝุ่นจะว่าลูกรังจะว่าอะไรก็ช่าง อันนั้นไม่ทำให้ความเป็นพระมหากษัตริย์ด้อยคุณภาพ ไม่ทำให้ความเป็นสมเด็จพระราชินีนาถนี่ลดคุณภาพลงไป มีแต่เสริมสร้างคุณภาพความเป็นพระมหากษัตริย์ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น จึงว่าความแข็งกระด้างไม่ได้เรื่อง จะต้องมีการหัดการกราบการไหว้ ทำใจของเราให้มีความอ่อนน้อมให้มากอยู่เสมอ

ลำดับที่ 012 เลขที่เทป 040/41 ชื่อแฟ้มข้อมูล 410613 วันที่เทศน์ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2541
คำว่าศักดิ์ศรี ๆ นี่ ถ้าหากว่ามีมากจริง ๆ แล้วไม่กลัวหมดนะ ที่มีน้อย ๆ นั่นหนะหวงกลัวจะหมด กลัวเสียศักดิ์ศรีกลัวศักดิ์ศรีหมดเพราะมันมีน้อยเหลือเกิน อันนี้ก็น่าเห็นใจ ของเขามีน้อยเขาก็ต้องหวงของเขา การหวงศักดิ์ศรี ๆ อันนี้บางทีมันยิ่งเสียนะ การที่มีศักดิ์ศรีแล้วไม่กลัวศักดิ์ศรีหมด การกระทำอันนั้นมีแต่ทางที่เป็นประโยชน์ มีแต่ทางที่เสียสละ มีแต่การให้การอ่อนน้อมถ่อมตนนี่ไม่ทำให้ศักดิ์ศรีที่มีอยู่ลดน้อยไปเลย ถึงว่ามีแต่เพียงน้อย ๆ ๆ มีแต่ที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น เรื่องศักดิ์ศรีเป็นอย่างนี้ จึงว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนนี่จึงเป็นการปฏิบัติธรรม เป็นการปฏิบัติธรรมนะ พระพุทธเจ้าท่านก็สอนให้อ่อนน้อม ไม่มีทิฐิมานะ ไม่มีอติมานะ เป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้แข็งกระด้างถึงเป็นพระศาสดา พระพุทธเจ้าอ่อนน้อมอยู่ตลอดกาล พระสาวกของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะพระสารีบุตรนี่อ่อนน้อมเป็นพิเศษทีเดียว พระเล็กพระน้อยอย่างนี้พระสารีบุตรก็ไม่เคยแสดงกิริยาที่เรียกว่าเห็นว่าเป็นเด็กเล็กเด็กน้อยไม่มี มีการอ่อนน้อมเสมอต้นเสมอปลายทีเดียว พระพุทธเจ้ายกย่องเป็นพิเศษในอาจาระความอ่อนน้อมของพระสารีบุตรนี่แล้ว ก็ไม่ทำให้ความเป็นอัครสาวกลดน้อยถอยลงไม่เป็นอย่างนั้น มีแต่เป็นที่ยอมรับ ๆ ๆ ของบรรดาสาวก ในบรรดาภิกษุรุ่นพี่และรุ่นน้องนี่ มีแต่เพิ่มความสำคัญมีแต่ที่ยอมรับยิ่งขึ้นไป

ลำดับที่ 013 เลขที่เทป 046/41 ชื่อแฟ้มข้อมูล 410623 วันที่เทศน์ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2541
เตือนเจ้าของอยู่เสมอ กระตุ้นเจ้าของอยู่เสมอ เทศน์เจ้าของอยู่เสมอ เจ้าของรู้จุดไหนควรแก้ไข เจ้าของตรงไหนควรแก้ไข ก็ต้องแก้จุดที่ควรแก้ไขของเจ้าของนั้น นี่เรียกว่า เตือนเจ้าของหรือจะเรียกว่าเทศน์เจ้าของ มีจุดควรแก้ไขก็ไม่สน ๆ ๆ นั่น ไม่เตือนเจ้าของไม่แก้ไขเจ้าของ แล้วก็ชอบไปแก้คนอื่น มองคนอื่นไปในลักษณะที่เรียกว่าไม่ถูกต้อง เป็นการยกโทษยกโพย เป็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น: