วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

11 ธุดงค์ข้อวัตร 13 ข้อ

ลำดับที่ 001 เลขที่เทป 999/24 ชื่อแฟ้มข้อมูล 240731 วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2524

การถืออิริยาบถเว้นจากการนอน เป็นการกลั้นจิตกลั้นใจให้เข้มแข็ง ในเมื่อมีความเข้มแข็ง ทำอะไรจะแจ้งไปหมด กิเลสตัณหามันจะปรากฏขึ้น ในเมื่อใจของเรามีความเข้มแข็งแข็งแกร่งอยู่แล้ว มันจะอยู่เหนือจิตเหนือใจของเราไม่ได้ ท่านจึงสอนกันให้พอใจในการถือธุดงควัตร เรื่องอดหลับอดนอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมื่อเราถือเนสัชชักแล้ว เรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็ก ถือเรื่องนั่งตลอดคืน ยิ่งได้กำลังมาก ได้มีโอกาสต่อสู้กับทุกขเวทนาที่สุด ทุกขเวทนาอันเกิดจากกการนั่งตลอดคืน สุดยิ่งกว่านั้นไม่มีแล้ว เรามีโอกาสได้ต่อสู้อย่างที่สุดแล้ว

ลำดับที่ 002 เลขที่เทป 999/24 ชื่อแฟ้มข้อมูล 240731 วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2524
ผ้านุ่งห่มสามผืน ถือผ้านุ่งห่มบังสุกุลเป็นเครื่องตัดกิเลสทั้งนั้น ตัดความโลภ ความโลภของใจที่เคยเห็นทั้งนั้น เห็นอันนั้นก็อยากได้ เห็นอันนี้ก็อยากได้ อยากได้มาก ๆ เอาความตั้งใจจริงตัดเสีย เรียกว่าตัดด้วยความสัตย์เอาความสัตย์ที่ตั้งไว้ นั่นหละมาตัดกิเลสของเราที่มีอยู่ในจิตในใจไม่ให้มันแสดงออก ถึงมันจะแสดงออก มันก็ต้องถูกระงับไว้ด้วยความสัตย์ความจิรง ด้วยการถือธุดงควัตรของเรา จึงถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ในเมื่อเราถือแล้วมันก็ทำให้เราเป็นผู้ที่มีความกังวลน้อย นุ่งผ้าห่มสามผืน ใช้ผ้าบังสุกุล ความสวยงามหรูหราก็ไม่มี นุ่งห่มเพราะประดับประดาก็เบาบางลงไป นุ่งห่มเพื่อความสวยงามอันนี้ก็ไม่ปรากฏ เพราะผ้าบังสุกุลมันเป็นไม่สวย นุ่งเพื่อปกปิดร่างกาย นุ่งเพื่อความเป็นลักษณะโลกเท่านั้น

ลำดับที่ 003 เลขที่เทป 999/24 ชื่อแฟ้มข้อมูล 240731 วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2524
การบิณฑบาตมาฉัน อย่างนี้มันก็เป็นการตัดเครื่องกังวล บิณฑบาตมาได้น้อยก็ฉันน้อย บิณฑบาต มามากฉันพอดี มันไม่มีเครื่องกังวลใด ๆ เพิ่มเติมแล้ว ทีนี้ ในเมื่อเราฉันพอดีพองาม อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง มันทำให้ธาตุในตัวเราเบา อาหารไม่มากมันก็ทำให้ไม่หนัก จะทำให้ความง่วงเหงา ความมึนเมาอันเกิดจากอาหารไม่มี โภชะเนนะมันยุตา พระพุทธเจ้าท่านสอนการบริโภคอาหาร ให้รู้จักความพอดี อย่าให้มากจนกระทั่งเกิดความมึนเมา ถ้าหากว่าโภชนียะมันยุตา มันจะพอดีไปหมด ไม่มืดไม่มัวไม่หนัก ไม่หน่วงไม่เหนื่อยไม่เพลีย ไม่เหนื่อยเพราะความพอดี ธุดงควัตรเป็นเครื่องขัดเกลาเป็นธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส



ลำดับที่ 004 เลขที่เทป 016/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290122 วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2529
พระพุทธเจ้าท่านยกย่องสรรเสริญมากมาย พระผู้ถือธุดงค์เป็นการบั่นทอนกิเลส พระพุทธเจ้าท่านยกย่องถือการฉันครั้งเดียว พระพุทธเจ้าท่านก็ยกย่องเป็นการละกิเลสความมักมากนี้ ให้น้อยลงไป เบาบางลงไป การฉันเฉพาะในบาตร ก็เป็นการละกิเลสคือการที่มุ่งรสมุ่งลาภมุ่งเอร็ดอร่อยอะไรเหล่านี้ ตัดตรงนั้นละตรงนั้น ให้มันหมดมันสิ้นไปนี้ แล้วก็ฉันเฉพาะที่บิณฑบาตมาได้ พระพุทธเจ้าท่านก็ยกย่องขึ้นอีก เป็นการถือธุดงค์อุกฤษ์ขึ้น เป็นการทำลายกิเลสยิ่งขึ้น ท่านยกย่องผู้ที่ถือผ้าสามผืน มีแต่ผ้าสบง มีแต่ผ้าจีวร มีแต่ผ้าสังฆาฏิ สามผืนเท่านี้ ถ้าหากว่าใครสามารถอันนี้เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนา หรือว่าถ้าหากว่าไม่สามารถอย่างอุกฤกษ์อย่างนี้ ก็เพียงแต่ว่าให้มันน้อย ๆ ลงไป การใช้บริขารส่วนใด ๆ ก็ให้ตามมีตามเกิด อย่าให้มันเกิดขึ้นมีขึ้นด้วยความขวนขวาย หรือด้วยความอยากของเจ้าของ ถ้าหากว่ามันเกิดขึ้นมีขึ้นด้วยความขวนขวาย ด้วยอำนาจของความอยาก อันนั้นเป็นการได้มาด้วยความมักมากของเจ้าของ

ลำดับที่ 005 เลขที่เทป 013/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290117 วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2529
แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ยกย่องสรรเสริญ การเข้าเยี่ยมป่าช้า ส่งเสริมสรรเสริญผู้ที่ถือการเข้าเยี่ยมป่าช้าเป็นวัตร เป็นธุดงค์วัตร เป็นสถานเป็นมงคล เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติธรรม เข้าเยี่ยมป่าช้าเป็นวัตร ประโยชน์ของการเยี่ยมป่าช้าได้ประโยชน์มาก เข้าไปถึงเห็นแต่คนที่ตาย แล้วเอาไปฝัง คนที่ตายแล้วเอาไปฝัง หรือเอาไปเผานั้น ไม่มีอะไรทำให้เกิดความยินดีและยินร้าย ไม่มีอะไรที่จะทำให้จิตใจเกิดความกำเริบขึ้น เป็นสถานที่มงคล ทำจิตใจให้เข้าถึงความสงบระงับ มีความเป็นธรรม เป็นวินัยได้

ลำดับที่ 006 เลขที่เทป 010/26 ชื่อแฟ้มข้อมูล 260226 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526
พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เสวงหาอยู่ตามถ้ำตามเรือนร้างว่างเปล่า อยู่ตามป่าช้า อยู่ในล้อมฟาง อยู่รุกขมูลต้นไม้ อยู่ในที่แจ้ง รู้สึกว่าไม่ได้บอกำสอนนอนในกุฏิ เรือนร้างว่างเปล่าก็คือเรือนเขาทิ้งแล้ว อาจจะเป็นเรือนลักษณะแตกบ้านแตกช่อง หนีบ้านหนีช่อง ให้ไปแสวงหาสถานที่อย่างนั้น แสวงหาอยู่ในรุกขมูลต้นไม้ อยู่รุกขมูลต้นไม้นี้มันสดชื่นแจ่มใสจริง ๆ นอนก็นอนน้อยตื่นมาก อานิสงส์ของการอยู่รุกขมูลต้นไม้ อยู่ในที่แจ้ง อยู่ในป่าช้าก็มีอานิสงส์มาก มีความระแวดระวังมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จึงว่าพระพุทธเจ้านี้ท่านฉลาด ทางไปทางไหนที่จะไม่นิ่งนอนใจ ไม่ประมาทให้ท่านไปทางนั้น สอนให้รีบเร่ง สอนให้กินน้อยนอนน้อย มันก็คือ แสวงหาอยู่ที่ไกลที่ทุรกันดาร ป่าช้า ตามถ้ำ ตามเหว นอนในที่ดีมันมีความอบอุ่น ความระมัดระวังหน้าระวังหลัง ไม่มีผิดกันมาก อืดอาดความคล่องตัวเบาเนื้อเบาตัวไม่มี

ลำดับที่ 007 เลขที่เทป 999/25 ชื่อแฟ้มข้อมูล 250721 วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2525
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่ก่อน ผมชอบมากเรื่องการถือเนสัชชิกะ ถือเรื่องการไม่นอนนี้ ตั้งแต่แรกตั้งแต่พรรษาหนึ่งทีเดียวผมไม่ขาด ไม่ใช่เฉพาะวันพระเท่านั้น ไม่ใช่วันพระก็มีความอุสาหะ มีความพยายามเอาคนเดียว ขโมยทำนะไม่ให้คนอื่นรู้ ขโมยทำเอา เดินจงกรม นั่งภาวนา เดินจงกรมนั่งภาวนาถึงว่าหลับใหลไปบ้าง แต่ว่าไม่ยอมเอนตัวลงกับพื้นกระดาน ต่อสู้ แต่ถ้าหากว่าวันพระวันเจ้าอย่างนั่นจะเรียกว่า ไม่เคยทีเดียวโน่นหละ

ลำดับที่ 008 เลขที่เทป 099/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290721 วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
เรื่องการถือธุดงค์ให้พากันมีจิตมีใจ ธุดงค์เป็นธรรมเป็นธรรมเครื่องประหารกิเลส เป็นธรรมเครื่องบั่นทอนกิเลส ธุดงค์แต่ละข้อ ๆ เป็นธรรมเครื่องบั่นทอนกิเลสทั้งนั้น ให้พากันสนใจ ให้พากันใคร่ในการที่จะปฏิบัติธุงควัตรนั้น ๆ ธุดงควัตรเป็นธรรมที่จะประหัตประหารกิเลสทุกข้อ อย่าเห็นสิ่งอื่นมีค่ากว่าธรรมคือธุดงควัตร บิณฑบาตเป็นวัตรเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง ฉันในบาตรเป็นวัตรเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง ฉันอาสนะเดียวเป็นวัตรเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง เวลาบิณฑบาตจะฉันเฉพาะที่บิณฑบาตมาได้เท่านั้น จะไม่รับภัตรที่ตามมาทีหลัง อันนี้ก็เป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง ธุดงค์แต่ละข้อ ๆ เป็นธรรมเครื่องทำลายกิเลสทั้งนั้น เป็นการตัดเครื่องกังวลใจ อันนี้ให้พิจารณาเจ้าของเองสามารถแค่ไหนเพียงไรให้อยู่กับความสมัครใจ เพราะคำว่าธุดงค์เป็นเรื่องของความสมัครใจ พระพุทธเจ้าไม่ได้บีบบังคับให้พากันถือ ไม่เหมือนกับพระวินัย แต่ผู้ที่มุ่งทำลายบั่นทอนกิเลสจริง ๆ ต้องอาศัยธุดงค์นี่เป็นส่วนประกอบอย่างมากมาย

ลำดับที่ 009 เลขที่เทป 999/25 ชื่อแฟ้มข้อมูล 250717 วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2525
การเว้นอิริยาบถนอนเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านพรรณนาเรื่องการถือธุดงค์ไว้มากทีเดียว เป็นธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส จึงว่าให้พากันอุตสาหพยายามถึงว่า จะเหน็ดเหนื่อยต้องต่อสู้มากกับความง่วงเหงาหาวนอน ก็ให้ถือเอาการต่อสู้นั้นหละเป็นอานิสงส์ เรามีจิตมีใจที่จะต่อสู้ดีกว่าไม่มีจิตมีใจที่จะต่อสู้เสียเลย คนไม่มีจิตมีใจที่จะต่อสู้นั่นแสดงถึงความอ่อนแอไม่มีความเข้มแข็งในใจ ในเมื่อไม่มีความเข้มแข็งในใจ เราก็ควรที่จะสร้างความเข้มแข็งให้มีขึ้น เกิดขึ้นภายในใจของเรา ถ้าหากว่าเราไม่สร้าง มีแต่ที่จะอ่อนแอไปหน้าไม่อยู่ตัวไม่คงที่ อ่อนแอ เดี๋ยวนี้ขนาดนี้มันก็การปฏิบัติมันก็ยังถอยหลังถอยหลัง การที่เรียกว่าจะไปข้างหน้า บางทีมันน้อยกว่าถอยหลังเสียอีก ในเมื่อไปข้างหน้าน้อยกว่าถอยหลัง ก็เรียกว่าความอ่อนแอของเรานี้มากไปหน้า ถ้าหากว่าเราไม่มีความพยายามที่จะต่อสู้ไม่มีความอดความทน ความเข้มแข็งไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น: