วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

12 การพักผ่อนหลับนอน

12 การพักผ่อนหลับนอน
ลำดับที่ 001 เลขที่เทป 140/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290923 วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2529
การพักผ่อนหลับนอน ก็ให้ตั้งใจเอาไว้ รู้สึกเมื่อไรจะลุกทันที ให้ตั้งใจเอาไว้ และในเมื่อรู้สึกลุกทันที ถ้าไม่ตั้งใจแล้วหากมันนอนต่อไม่ได้ เรื่องได้แต่นอน ต่อไปนี้อากาศมันแห้ง ฝนมันแล้งแล้ว เดินจงกรมแล้ว นั่งตามร่มไม้หรือเอาเสื่อเอาสาดไปนอนตามร่มไม้ก็ได้ มันไม่ชื้นไม่สบาย ถ้าหากยุงหรือริ้นมันมาก เอากลดไปกางตรงโน้น ตรงนี้ก็ได้เข้าก็เก็บ ชอบทำอย่างนั้นแต่ก่อน เอากลดไปกางตรงนั้นบ้าง ตรงนั้นบ้างเวลายุงมันชุม เดินจงกรมแล้วก็นั่งสมาธิ ในกลด นอน บางทีเก็บบางทีก็ไม่เก็บ ถ้าหากที่มิดชิดบัง ๆ เสียหน่อย ก็ไม่ต้องเก็บ มันเปิดเผยต้องเก็บ

ลำดับที่ 002 เลขที่เทป 999/24 ชื่อแฟ้มข้อมูล 240904 วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2524
อิริยาบถนอนหลังจากที่เรานั่งเป็นที่พอใจของเรา รับผลเป็นที่พอใจของเรา พักผ่อน ระหว่างพักผ่อนนั้นก็ไม่ใช่เลิกการภาวนา คำว่าพักผ่อนไม่ใช่เลิกการภาวนา ภายในจิตใจในใจนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังใสอยู่ ยังสงบอยู่ ยังชัดอยู่ นี่ คำว่าใส คำว่าสงบนี่ก็หมายถึงว่าใจของเรายังมีสติ ยังมีสติไม่มีการเคลื่อน ไม่ขาดวรรคขาดตอน ยังมีความรู้ มีความเห็นอยู่ในความสงบ ยังมีความรู้ มีความเห็น ยังมีสติอยู่ในจิตในใจของเราอยู่ นี่ เราเอนตัวลงนอนก็ให้มีสติ ไม่ให้ขาดวรรคขาดตอน นอนก็ให้มีสติในการนอน ตั้งใจเอาไว้แล้วนี่ มีสติรู้สึกขึ้นมาเมื่อไหร่เราก็จะบุกขึ้นมานั่งสมาธิต่อเมื่อนั้น แล้วก็นอนให้หลับไปเลย หลับอยู่อย่างมีสติ เวลารู้สึกขึ้นมา ลุกขึ้นมานั่งสมาธิทันที ไม่ยอมพลิกอิริยาบท ไม่ยอมพลิก ไม่ยอมขยับ ถ้าหากรู้สึกขึ้นมาแล้วพลิกซ้ายพลิกขวา บิดนั่นบิดนี่ ชอบหลับต่อ ถ้าหากรู้สึกขึ้นมาแล้วลุกขึ้นเลยนี่

ลำดับที่ 003 เลขที่เทป 057/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290511 วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2529
พักผ่อนพอสมควรกลางค่ำกลางคืนมา พักผ่อนพอสมควร ก่อนที่จะนอนพักผ่อน ก็ต้องตั้งใจเอาไว้ รู้สึกตัวเมื่อไรเราจะลุกขึ้นเมื่อนั้น แล้วก็ลุกขึ้นจริง ๆ ชำระความง่วงเหงาหาวนอน ด้วยการเดินจงกรม กลางค่ำกลางคืนมา ตีสองตีสามให้เห็นแสงฟืนแสงไฟ เดินจงกรมตรงนั้นเดินจงกรมตรงนี้ เป็นการเตือนซึ่งกันและกัน ถ้าหากว่าฝนไม่ตกไม่รินนี้ กลางค่ำกลางคืนนี้อย่าพากันหมกมุ่นอยู่ในที่นอนมากนัก ทางเดินจงกรมมีให้อยู่กับทางเดินจงกรมให้มาก ชาคิยานุโยค เป็นผู้ที่ตื่นอยู่ในการประกอบความพากความเพียรหลังจากเดินจงกรมแล้ว นั่งภาวนาก็นั่งตามก้อนหิน นั่งตามดานหินเรียบ ๆ เอาเสื่อไปปูเสื่อก็พับครึ่งเสียเนื้อเก่า ๆ พับเสื่อเก่า ๆ อันนี้ดีที่สุด ถ้าหากว่ายุง ๆ ริ้นไม่ชุมมาก เราจะนอนตามก้อนหินก็ได้ หมอนไม่ต้องไปสนใจมัน มันแต่นั่งมันก็ยังหลับ ถ้าหากว่าที่นอนที่นอนดีนอนหมอนมันดี บางทีมันตื่นแล้วมันก็ยิ่งอยากจะต่ออีก นอนไม่มีหมอนเอาหินทำหมอนอย่างนั่นนะ มันนอนนานมันเจ็บหัวมันก็ดี

ลำดับที่ 004 เลขที่เทป 999/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290808 วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2529
นอนก็ตั้งใจ นอนตะแคงข้างขวาอยู่กับอารมณ์ของธรรมคือความสงบ นอนก็นอนปฏิบัติให้หลับไปด้วยการปฏิบัติ นอนหลับไปตื่นขึ้นตั้งใจจะลุกทันที หนึ่ง สอง สาม ลุกนับซะก่อนตั้งใจนับไม่ให้มันเกินสามจะลุก บางทีมันยังโอ๊ย นับช้า ๆ สักหน่อยเถอะ ขนาดบีบบังคับว่า นับหนึ่ง สอง สาม ลุก บางทีมันนับช้า ๆ แหนะ มันขนาดนั้นหนะ น้อยมันก็ยังเอาจนได้นั่นหละ ถ้าหากว่ามันบอกให้นับช้า ๆ เรายิ่งนับเร็วขึ้นนี้ การชนะกิเลสมันชนะอย่างนี้ รู้สึกมาหนึ่ง สอง สาม บางทีมันบอกนับช้า ๆ สักหน่อย ยิ่งนับเร็วเป็นการบังคับเรา เพราะเราได้ตั้งใจไว้แล้วรู้สึกมาจะลุกนั่งภาวนาต่อไป ถ้าหากว่ามันมืดมนอนธการ ง่วงเหงาหาวนอนงัวเงียลุกไปดูเดือนดูดาว ลุกไปข้างนอกเดินไปรอบวัดรอบวา หายหมด ความง่วงเหงาหาวนอนไม่มีหรอก

ลำดับที่ 005 เลขที่เทป 999/25 ชื่อแฟ้มข้อมูล 250711 วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2525
การพักผ่อนหลับนอน กลางวันนี่ไม่พักผ่อนหลับนอนก็ดี ถึงว่าจะมีการพักผ่อนหลับนอน ก็อย่าให้มากมายนัก ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้นพอ เว้นไว้แต่ร่างกายเกิดป่วยเกิดไข้ ถ้าหากว่าเป็นปรกติแข็งแรง ไม่มีโรคภัยอะไร กลางวันนี่ไม่จำเป็นที่จะต้องพักผ่อนหลับนอนอะไร ฉันจังหันแล้วก็เดินจงกรมจนกระทั่งเที่ยง

ลำดับที่ 006 เลขที่เทป 099/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290721 วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
ถึงว่าจะนอนตามร่มไม้นอนตามลานหินก็นอนได้ อย่างนั้นดี นอนประเดี๋ยวประด๋าว บางทีนอนยังไม่ทันหลับมันก็ลุก นี่ให้อยู่อย่างนั้น เป็นการที่หาทางที่จะให้เจ้าของตื่นให้มาก เข้าไปในที่นอนเข้าไปในกุฏิแล้ว นี่มันเห็นแล้วมันอดที่จะอยากนอนไม่ได้ พยายามห่าง ๆ พยายามหลีก ๆ ไว้หละดี เวลานอนก็ให้ตั้งใจไว้ รู้สึกเมื่อไรจะลุกทันที จะลุกไปเดินจงกรม ตั้งใจไว้รู้สึกขึ้นมา จะลุกไปเดินจงกรมถ้าฝนไม่ตก มันง่วงเหงาหาวนอน ล้างหน้าล้างตาเสียก่อน เดินจงกรมเหลียวดูฟ้าเหลียวดูดาวดูเมฆ เหลียวดูไปยังงั้นหละ เหลียวดูต้นไม้ถึงกลางคืน มันมืดเราก็เห็น ตาเหลียวดูอะไรใจของเราก็รับรู้ว่าอันนั้นเป็นอันนั้น สิ่งที่เรารับรู้ว่าอันนั้นเป็นอันนั้นนั่นหละ มันจึงจะเป็นอุบายให้เราคิดเราอ่าน ทำให้เราเกิดความรื่นเริง หายจากความง่วงเหงาหาวนอนได้ นี่ก็เป็นการแก้ความง่วงเหงาหาวนอนได้อย่างหนึ่ง อย่าไปรีบทำใจให้สงบ ไม่อยากดูอะไรให้กว้างขวางออกไป มีแต่จะทำใจให้สงบ มีแต่จะบังคับใจให้สงบ นี่ เวลามันสงบจริงหละ มันก็กลายเป็นหลับไปเสีย เนื่องจากการชำระด้วยอุบายยังไม่พอ ถ้าหากว่ามีการชำระด้วยอุบายด้วยคิดพิจารณาพอแล้ว ใจสงบลงไปแล้ว นี่นั่งอยู่หมด คืนก็ไม่ง่วง อย่าว่าอยู่สองชั่วโมง สามชั่วโมงนั่งหมดคืนก็ไม่ง่วง

ลำดับที่ 007 เลขที่เทป 099/29 ชื่อแฟ้มข้อมูล 290721 วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
จึงว่าการชำระสะสางความง่วงเหงาหาวนอนนี่เป็นประโยชน์ ให้พอใจในการชำระสะสางให้มาก อย่า
ไปพอใจในการที่จะไปบังคับใจให้สงบ ถ้าให้สงบลงไปโดยไม่มีการชำรำสะสางนี่ สงบลงไปมันก็มืด สงบลงไปมันก็มีแต่อยากหลับ เวลารู้สึกตัวขึ้นมา มันก็เหมือนกับคนนอนหลับ ตื่นแต่ก็เบิกบาน แต่ก็มีปิติอยู่สบายอยู่ สงบแล้วหลับรู้สึกตัวมาก็สบายอยู่เบาเนื้อเบาตัวสบาย ผิดกับหลับปรกติอยู่ เวลาภาวนาเวลาจิตมันสงบมันหลับไปเลย รึว่าขาดสติ เวลามีการรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างนี้ จะมีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เบิกบานผิดกับที่เราหลับธรรมดาอยู่ ผิดกับที่เราธรรมดาหลับจริง ๆ แต่ไม่ควรที่จะให้เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนั้นบ่อยหละมันติด การที่จะแก้จิตแก้ใจต้องแก้ด้วยอุบาย แก้จิตแก้ใจต้องแก้ด้วยอุบาย การค้นคิดพิจารณา

ไม่มีความคิดเห็น: